ประกันสุขภาพในยุค Covid ปี 2022 กับ 6 สิ่งจำเป็นต้องรู้
1 min readในยุคแห่งความเสี่ยง ประกันภัยสุขภาพสำคัญมากกว่าที่คิด ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ผู้คนทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) โรคระบาดที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนอย่างสิ้นเชิง นอกจากกังวลกับการใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 หลายคนยังพะวงกับค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคนี้ เพราะต่างกลัวว่าเงินเก็บหมดไปกับค่ารักษา ส่งผลให้ผู้คนหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ ซึ่งเป็นดั่งเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เข้ามาดูแลคุณยามเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ว่าจะด้วยโรคไข้หวัด ไข้เลือดออก ลําไส้แปรปรวน หรือโรค COVID-19 แต่การซื้อประกันภัยสุขภาพอาจไม่ใช่เรื่องง่าย จำต้องวางแผนเลือกแบบประกันภัยที่เหมาะกับความต้องการตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าโควิดยังอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน ทั้งในอนาคตอาจมีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นอีก ฉะนั้นเพื่อให้ได้แผนประกันภัยที่ตอบโจทย์ความคุ้มครองที่คุ้มที่สุด ตามมาดูกันว่า 6 เรื่องที่ควรต้องรู้ก่อนเลือกทำประกันภัยสุขภาพมีอะไรบ้าง
1. เช็คประวัติสุขภาพครอบครัว เพื่อหาโรคร้ายที่แฝงอยู่ในพันธุกรรม
หากสมาชิกในครอบครัวของคุณไม่ว่าจะเป็นปู่ย่าหรือตายายมีประวัติป่วยเป็นโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคธาลัสซีเมีย หรือโรคร้ายแรงต่าง ๆ แนะนำว่าคุณควรรีบทำประกันภัยสุขภาพโดยเร็วที่สุดก่อนมีอาการเจ็บป่วย เพราะกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพให้ความคุ้มครองเฉพาะอาการเจ็บป่วยหรือโรคที่เกิดขึ้นหลังทำประกันภัย ฉะนั้นหากคุณคิดทำประกันภัยสุขภาพหลังตรวจเจอโรคเบาหวาน เท่ากับว่าคุณต้องรับผิดชอบค่ารักษาโรคเบาหวานเองทั้งหมด เพราะนี่ถือเป็นโรคที่เคยเป็นต่อเนื่องมาก่อนการทำประกันภัย
2. ความเสี่ยงของสุขภาพ คนแต่ละช่วงวัยมีความเสี่ยงด้านสุขภาพที่ต่างกัน อย่างวัยเด็กช่องอายุที่มีภูมิต้านทานน้อยเสี่ยงโรคภัยมากมาย ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก หรือโรคอีสุกอีใส ควรเลือกทำประกันภัยสุขภาพแบบเหมาจ่ายที่มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากไม่มีการแยกย่อยค่ารักษาพยาบาลเป็นหมวดหมู่ แต่จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่จำกัดวงเงิน ทำให้คุณได้รับความคุ้มครองครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในตามที่เกิดขึ้นจริง
ขณะที่วัยทำงานนอกจากสวัสดิการของประกันสังคมแล้ว ควรซื้อประกันภัยสุขภาพที่ติดไว้สักกรมธรรม์ โดยอาจเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองกลุ่มโรคออฟฟิศซินโดรมด้วย เพราะนอกจากเซฟค่านวด ค่าฝังเข็ม ค่ายาอื่น ๆ อีกมากมาย คุณยังได้ความคุ้มครองการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยจากโรคภัยทั่วไป โรคร้ายแรง ไปจนถึงโรคระบาด
3. ทำประกันภัยสุขภาพตอนอายุน้อย ไม่มีโรคคุ้มสุด
ควรทำประกันภัยสุขภาพตั้งแต่อายุน้อย ๆ นอกจากเบี้ยประกันภัยราคาไม่แพง ยังเป็นช่วงที่คุณมีสุขภาพแข็งแรงและยังไม่มีประวัติการรักษาโรคมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หากผู้ทำประกันภัยเคยเจ็บป่วยโรคเกี่ยวกับดวงตา จำต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องทุก 2-3 เดือน หากคุณซื้อประกันสุขภาพหลังเข้ารับการรักษาจะไม่ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้ ดังนั้นหากมีโอกาสให้รีบทำไว้ตอนยังไม่มีโรคดีที่สุด
4. โรงพยาบาลในเครือของบริษัทประกันภัย แน่นอนว่า การมีกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพมีข้อดีตรงที่คุณสามารถเลือกโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษาได้มากกว่าสิทธิประกันสังคม แต่ที่นี้บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับเครือโรงพยาบาลแตกต่างกัน อย่างบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่มีแผนประกันภัยสุขภาพ Viriyah Healthcare by BDMS เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้สนใจประกันสุขภาพที่อยากเข้ารับบริการทางการแพทย์ในระดับสากลของโรงพยาบาลเครือข่าย BDMS ทั่วประเทศ ฉะนั้นเมื่อเลือกแผนประกันภัยสุขภาพได้แล้ว ควรพิจารณารายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาว่ามีครอบคลุมทั่วประเทศหรือไม่ เพื่อเสริมความอุ่นใจว่าถ้าคุณเจ็บป่วยระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัดสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมา
5. คุ้มครองกรณีติดเชื้อโควิดและแพ้วัคซีนโควิด นอกจากต้องพิจารณาความคุ้มครองกรณีเข้ารับการรักษาในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) ผู้ป่วยนอก (OPD) ค่าชดเชยรายได้ระหว่างนอนรักษาตัว ตลอดจนค่าชดเชยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพแล้ว ปัจจุบันผู้ทำประกันภัยควรพิจารณาด้วยว่าแผนประกันภัยสุขภาพที่เลือกคุ้มครองครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลจากติดเชื้อโควิด-19 และแพ้วัคซีนโควิดหรือไม่ เนื่องจากไม่มีใครบอกได้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะหมดไปเมื่อไหร่ ประกอบทุกคนยังต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิกันอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นการมีความคุ้มครองตรงส่วนนี้ถือว่าคุ้มค่ากับเบี้ยประกันภัยที่จ่ายมากขึ้น
6. ลดหย่อนภาษีได้ รู้ไหมว่า คุณสามารถนำเบี้ยประกันภัยสุขภาพตนเองไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท แต่ต้องเป็นการทำประกันภัยกับบริษัทในประเทศไทยเท่านั้น
เมื่อคุณได้ลองพิจารณาเรื่องที่ควรรู้ทั้ง 6 ข้อ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยสุขภาพ เชื่อว่าช่วยให้มองหาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์และให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าได้ไม่ยาก แต่หากไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อหรือทำประกันภัยสุขภาพที่ไหนดี HUGS Insurance ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยอะไหล่รถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hugsinsurance.com